|
|
ให้คำปรึกษาเเละดูเเลเรื่องการไปเรียนต่ออเมริกา |
|
เรียนต่ออเมริกา
สหรัฐอเมริกามีพื้นที่ขนาด 9.63 ล้านตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 313 ล้านคน ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 หรือ 4 ของโลก และมีประชากรมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก เป็นประเทศซึ่งมีความแตกต่างหลากหลายในเชื้อชาติและวัฒนธรรม อันเป็นผลมาจากการอพยพจากหลายประเทศ สภาพทางภูมิศาสตร์และสภาวะอากาศของสหรัฐยังมีความหลากหลายสุดขั้ว และมันยังเป็นบ้านของสัตว์ป่าที่หลากหลายอย่างมากอีกด้วย เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเป็นเศรษฐกิจระดับชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2551 กว่า 14.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (อัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศคิดเป็นร้อยละ 15 ของโลก และอยู่ในอันดับที่ 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ)
ชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกา ซึ่งอาจสืบเชื้อสายมาจากชาวเอเชีย ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกาแผ่นดินใหญ่มาเป็นเวลา 15,000 ปีมาแล้ว ประชากรชนพื้นเมืองอเมริกันเหล่านี้ลดจำนวนลงอย่างมากหลังจากการยึดครองอาณานิคมของชาวยุโรป สหรัฐอเมริกาถูกก่อตั้งโดยสิบสามอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งมีทำเลอยู่ตามฝั่งทะเลแอตแลนติก เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 1776 ต้วแทนชาวอานิคมทั้ง 13 แห่ง ได้ลงมติเป็นเอกฉันท์เพื่อประกาศอิสรภาพ ซึ่งเป็นการอ้างสิทธิ์ในการกำหนดชะตาของตนเอง และการสร้างสหภาพความร่วมมือขึ้น รัฐซึ่งก่อการจลาจลสามารถเอาชนะราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ในสงครามประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกา ในปี 1783 ซึ่งเป็นอาณานิคมแห่งแรกที่ได้รับการยอมรับถึงความเป็นอิสระของสหรัฐจากประเทศสหราชอาณาจักร และเป็นสงครามประกาศอิสรภาพที่ประสพความสำเร็จครั้งแรกต่อจักรวรรดิ์อาณานิคมยุโรป[8][9][10] อนุสัญญาฟิลาเดลเฟียได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาฉบับปัจจุบัน เมื่อวันที่ 17 กันยายน ค.ศ. 1787 การปรับใช้อนุสัญญาดังกล่าวมีผลให้รัฐต่าง ๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐเดี่ยว และขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางที่มีอำนาจเด็ดขาด การปรับปรุงแก้ไข 10 ครั้งแรกรวมกันที่เรียกว่า Bill of Rights ในปี 1791 รับประกันสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานของประชาชนหลายอย่าง.
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 สหรัฐอเมริกาได้ดินแดนเพิ่มเติมจากฝรั่งเศส สเปน สหราชอาณาจักร เม็กซิโก และรัสเซีย และผนวกดินแดนรวมกับสาธารณรัฐเท็กซัสและสาธารณรัฐฮาวาย ความขัดแย้งระหว่างรัฐกสิกรรมทางตอนใต้และรัฐอุตสาหกรรมทางตอนเหนือ เหนือสิทธิของรัฐ และการขยายจำนวนของทาสได้นำไปสู่สงครามกลางเมืองอเมริกา เมื่อราวคริสต์ทศวรรษ 1860 ชัยชนะของฝ่ายเหนือได้ป้องกันการแบ่งแยกประเทศอย่างถาวร และยุติการค้าทาสตามกฎหมายในสหรัฐอเมริกา ในราวคริสต์ทศวรรษ 1870 เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกานับว่าใหญ่ที่สุดในโลก[11] และสงครามสเปน-อเมริกันและสงครามโลกครั้งที่หนึ่งได้เน้นย้ำถึงสถานภาพทางทหารของสหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกาก้าวขึ้นมาจากสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นประเทศแรกซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในครอบครอง และเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หลังจากการสิ้นสุดของสงครามเย็นและการยุบสหภาพโซเวียต ส่งผลให้สหรัฐอเมริกากลายเป็นรัฐอภิมหาอำนาจเดี่ยวของโลก สหรัฐอเมริกามีรายจ่ายทางทหารคิดเป็นกว่าร้อยละ 40 ของรายจ่ายทางทหารทั่วโลก และเป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของโลก
ภูมิประเทศ
ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่ ดังนั้นเรื่องของภูมิประเทศจึงมีความหลากหลาย คือมีทั้ง ทะเลทราย ภูเขา ป่าดง ที่ราบสูง ที่ราบลุ่ม ด้วยความที่เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่มากจึงได้มีการแบ่งรัฐออกเป็นภูมิภาคต่างๆ ตามลักษณะภูมิประเทศ
ภูมิอากาศ
ประเทศสหรัฐอเมริกาในแถบขั้วโลกเหนือจะมีอากาศตั้งแต่หนาวติดลบ 40 องสาเซลเซียส จนถึงร้อนแบบทะเลทราย 40 องศาเซลเซียส ส่วนแถบทางตอนกลางของประเทศจะมีฤดูร้อนและหนาวที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อากาศหนาว เว้นแต่ในมลรัฐฮาวาย และมลรัฐฟลอริดา หนาวเย็นมากที่บริเวณขั้วโลกเหนือในมลรัฐอะแลสกา บริเวณที่ราบด้านตะวันตกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี (Mississippi) จะค่อนข้างแห้งแล้ง และมีความแห้งแล้งมากบริเวณที่ลุ่มภาคตะวันตกเฉียงใต้ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิต่ำในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะมีอากาศดีขึ้นเป็นครั้งคราวในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ โดยจะได้รับความอบอุ่นจากลมของเนินเขาด้านตะวันออกของเทือกเขาร๊อกกี้ ช่วงหน้าหนาวจะอยู่ในเดือนมกราคม และจะร้อนที่สุดในเดือนกรกฎาคม แต่ถ้าเป็นในแถบทางด้านตะวันออกอากาศในฤดูร้อนและหนาวจะแตกต่างกันไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก ส่วนในด้านแถบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกอากาศในฤดูหนาวและฤดูร้อนจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ส่วนด้านแถบตะวันตกอากาศในฤดูหนาวจะคล้ายๆกลับช่วงฤดูใบไม้ผลิกล่าวคืออากาศจะไม่เย็นจัดนัก แต่ในฤดูร้อนอากาศจะร้อนอาจสูงเท่ากับเส้นศูนย์สูตรเลยทีเดียว
พบเราได้ที่ http://sisinterstudy.com/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2/ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Copy Right 2009 © NaRanDD.com. All rights reserved. |
|
|
|
|